ระบบหมุนเวียนน้ำของสระว่ายน้ำ

                
สระว่ายน้ำที่เราใช้งานเป็นประจำแล้ว ดูเผินๆแล้วอาจจะเหมือนๆกัน แต่ก่อนที่จะเป็นสระว่ายน้ำให้ทุกคนได้ใช้งานกันนั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนการออกแบบและดำเนินการสร้างสระ ซึ่งจะมีผลต่อรูปร่างหน้าตา และงบประมาณในการก่อสร้าง

                ระบบการหมุนเวียนน้ำก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้สระว่ายน้ำ โดยปัจจุบันระบบสระว่ายน้ำแบ่งตามประเภทของระบบการบำบัดและหมุนเวียนน้ำได้เป็น 2 ประเภทได้แก่

1. ระบบ น้ำล้น (Overflow System)

                ระบบน้ำล้นจะนำน้ำไปบำบัดโดยการให้น้ำในสระล้นออกมาสู่รางน้ำล้นข้างสระ แล้วนำน้ำไปพักไว้ที่ถังพักน้ำ (Surge Tank) ก่อนจะปั๊มน้ำไปผ่านเครื่องกรองน้ำในห้องเครื่อง นำน้ำที่บำบัดกลับมาใช้ที่สระใหม่

ผู้ที่เล่นน้ำอยู่ข้างในสระว่ายน้ำระบบนี้จะมองดูเสมือนว่าขอบสระอยู่ไกลออกไปสุดสายตา(Infinity Edge) ส่วนผนังที่น้ำล้นออกมาก็สามารถออกแบบให้เป็นน้ำตกเพื่อความสวยงามได้

               

2. ระบบ ดูด (Skimmer System)

                ระบบ Skimmer นั้นจะนำน้ำไปบำบัด โดยผ่านช่องด้านข้างของผนังสระ ทำให้ผิวน้ำอยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นรอบสระ  ระบบนี้ไม่ต้องมีถังพักน้ำ (Surge Tank) ทำให้เราประหยัดน้ำ และราคาค่าก่อสร้างของระบบ Skimmer ก็ถูกกว่าระบบ Over Flow

                 นอกจากนี้ในปัจจุบันระบบ Skimmer ยังได้รับการพัฒนาให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นเครื่องกรองสำเร็จรูป ไม่ต้องเดินท่อ เพียงแค่มีสระและติดเครื่องไว้ที่ขอบสระ ก็ทำงานได้เลย

                ระบบ Skimmer นี้จะเหมาะกับสระที่มีเล็กถึงไม่ใหญ่มากเนื่องอาจเกิดจุดที่วนเวียนน้ำไม่ครอบคลุมทั้งสระ

เปรียบเทียบสระว่ายน้ำระบบ OVERFLOW กับ SKIMMER

	OVERFLOW	SKIMMER
1.งบประมาณก่อสร้าง	มากกว่า	น้อยกว่า
2.งานระบบ	มากกว่า ยากกว่า	น้อยกว่า
3.การออกแบบ	ยากกว่า ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ	ง่าย
4.ความสวยงามของสระว่ายน้ำ	น้ำตึงผิวสวย ระดับเดียวกับระเบียงสระ หรือสามารถออกแบบให้ฝั่งน้ำล้นเป็นน้ำตก	ระดับน้ำต่ำกว่าขอบสระประมาณ 5-10 ซม. มักเกิดคราบน้ำบริเวณผนังสระ ที่ระดับผิวน้ำ
5.ปริมาณรวมของน้ำ	มากกว่า	น้อยกว่า
6.ขนาดของสระว่ายน้ำที่เหมาะสม	เหมาะกับสระทุกขนาด	เหมาะกับสระขนาดเล็ก-กลาง
7.ระยะเวลาก่อสร้าง	นานกว่า	สั้นกว่า
8.การบำรุงรักษา	หมุนเวียนน้ำได้เร็วและทั่วทั้งสระมากกว่า	ใช้เวลาหมุนเวียนบำบัดน้ำนานกว่า

จะเห็นได้ว่าทั้ง2ระบบจะค่อนข้างต่างกันพอสมควร การเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราพิจารณาถึงเรื่องใดเป็นสำคัญ ส่วนในคราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงเรื่อง “ระบบกรองสระว่ายน้ำ” ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญไม่แพ้กันในการพิจารณาก่อนออกแบบสระว่ายน้ำ